ประวัติสมาคมฯ

rgb-200x158สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย   ธุรกิจทุกประเภทย่อมมีคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ธุรกิจประกันภัยไม่ว่าจะเป็นการประกันชีวิตหรือการประกันวินาศภัยก็เช่นกัน  จะมีคนกลางเข้ามาช่วยจัดการให้มีการทำสัญญาขึ้นระหว่างบริษัทประกันภัยกับผู้เอาประกันภัย อาชีพนี้มีมาช้านานแล้ว แต่ไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในสังคม ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าทั่วไป หรือตัวแทนนายหน้า ล้วนแล้วแต่มีหน้าที่และหลักปฏิบัติที่คล้ายคลึงกันหรือจะเรียกว่าเหมือนกันก็ว่าได้  ต่อมาเมื่อพุทธศักราช 2510 ได้มีพระราชบัญญัติประกันวินาศภัยขึ้น  ได้มีการแบ่งแยกระบุชัดเจนระหว่างตัวแทนกับนายหน้า ซึ่งอาจประกอบการโดยคนเดียว หรือรวมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปทำการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลก็ได้  ทั้งนี้เพื่อประสงค์ให้มีการพัฒนาธุรกิจประกันภัยให้มีความมั่นคงและก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป  ในสมัยนั้น มีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ประกอบอาชีพเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิต  นำโดย นายเจนกิจ  ตันสกุล  ได้เล็งเห็นถึงผลประโยชน์ในการรวมตัวกัน เพื่อพัฒนาการประกอบอาชีพนายหน้าประกันภัยให้เป็นกลุ่มทำงานที่มีประสิทธิภาพพร้อมทั้งการจัดการในการเอาประกันภัยอย่างเป็นธรรม  ไม่ว่าด้านเบี้ยประกันภัยหรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน  จึงได้มีการก่อตั้ง สมาคมนายหน้าประกัน  (Insurance Brokers Association )ขึ้น เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2512  โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังนี้

  1. เพื่อคุ้มครองส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจและสวัสดิภาพของนายหน้าประกันภัย และร่วมมือกับหน่วยราชการ  บริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย ในอันที่จะช่วยให้กิจการประกันภัยมีคุณค่าต่อสังคมกว้างขวางยิ่งขึ้น
  2. เพื่อธำรงไว้ซึ่งเกียรติ ศักดิ์ศรี และความสามัคคีในระหว่างมวลสมาชิก
  3. สนับสนุนและช่วยเหลือสมาชิกแก้ไขอุปสรรค ข้อขัดข้องต่างๆ รวมทั้งการเจรจาทำความตกลงกับบุคคลภายนอกเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
  4. ทำการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบอาชีพนายหน้าประกันภัย ส่งเสริมคุณภาพของนายหน้าประกันภัยให้เข้ามาตรฐาน  แลกเปลี่ยนและเผยแพร่ความรู้ในทางวิชาการ การขยายงาน ตลอดจนข่าวสารอันเกี่ยวกับอาชีพนายหน้าประกันภัย
  5. เพื่อให้ความช่วยเหลือและบริจาคในการกุศลต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือโดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย
  6. เพื่อร่วมมือ ติดต่อ หรือเป็นสมาชิกกับสมาคมฯ อื่นทั่วโลก ที่ทำงานหรือมีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกับสมาคมนี้

ส่วนวัตถุประสงค์ร่วมกันของมวลสมาชิกสมาคมนายหน้าประกันภัยซึ่งมีหน้าที่ต้องปฏิบัติต่อสังคม คือ

  1. ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ รวมถึงความคุ้มครองที่เหมาะสมกับผู้เอาประกันภัย
  2. ศึกษากรมธรรม์ และต่อรองเงื่อนไข พร้อมทั้งเบี้ยประกันภัยที่เป็นธรรมให้กับผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันภัย
  3. ดูแลเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายของผู้เอาประกันภัย
  4. จัดหาแหล่งที่สามารถรับประกันภัยที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
  5. ให้ความรู้และประสบการณ์กับสถาบันการศึกษาต่างๆ
  6. การสร้างงานให้กับสังคม
  7. ประนีประนอมข้อพิพาทระหว่างสมาชิก หรือระหว่างสมาชิกกับบุคคลภายนอก ในการประกอบอาชีพนายหน้าประกันภัย
  8. เพื่อส่งเสริมสุขภาพ พลานามัย การบันเทิง และการกีฬา แก่สมาชิกสมาคม
  9. ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

หลังจากการก่อตั้งสมาคมเรียบร้อยแล้ว  มีผู้เข้าร่วมเป็นสมาชิกน้อยมาก เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่ค่อยมีผู้รู้จักธุรกิจนายหน้าประกันภัยดี    ดังนั้น สมาคมก็ขาดกำลังสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นด้านปัจจัย หรือบุคลากรก็ตาม  ความเจริญเติบโตของสมาคมจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า  สำนักงานของสมาคมฯ ก็ต้องอาศัยสถานที่ของสมาชิกอยู่  ในสมัยแรกที่ก่อตั้งสมาคมใหม่ๆ มีสมาชิกเข้าร่วมประมาณ 12 บริษัท   และได้คัดเลือกให้ นายเจนกิจ  ตันสกุล เป็นนายกสมาคมฯ คนแรก  ระยะนั้นนายกและคณะกรรมการบริหารของสมาคมฯ ดำรงตำแหน่งปีต่อปี (แต่ในปัจจุบันนี้ ดำรงตำแหน่งได้คราวละ 2 ปี) ได้มีการสับเปลี่ยนนายกสมาคมฯ กันอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด  ส่วนสมาชิกก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ  บ้างก็เข้าใหม่  บ้างก็ลาออก หรืออาจเลิกกิจการไป ตั้งแต่พุทธศักราช 2512 ถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลาประมาณ 40 ปี มีนายกสมาคมปฏิบัติหน้าที่ ได้แก่

  1. นายเจนกิจ ตันสกุล   (พ.ศ. 2512 และ พ.ศ. 2520 – 2522)
  2. ม.ล. สมศักดิ์ กำภู   (พ.ศ. 2522 – 2528)
  3. นายสมศักดิ์ ดุรงค์พันธ์  (พ.ศ. 2528 – 2530)
  4. นายอุดม รัมมณีย์  (พ.ศ. 2530-2534)
  5. นายพัลลภ อิศรางกูร ณ อยุธยา  (พ.ศ. 2534 – 2536)
  6. นายเปรมศักดิ์ คล้ายสังข์  (พ.ศ. 2536 – 2540)
  7. นายพิชิต เมฆกิตติกุล  (พ.ศ. 2540 – 2546)
  8. นางวรรณี คงภักดีพงษ์ (พ.ศ. 2546 – 2550)
  9. นายเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์   (พ.ศ. 2550 – 2554)
  10. นายปานวัฒน์ กูรมาภิรักษ์   (พ.ศ 2554 – 2556)
  11. นายจิตวุฒิ ศศิบุตร    (พ.ศ 2556 – 2560)
  12. นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์   (พ.ศ. 2560-2564)
  13. นายจิตวุฒิ ศศิบุตร (พ.ศ.2564-ปัจจุบัน)

คณะกรรมการบริหารของสมาคมฯ ต่างก็พยายามสานต่อนโยบายของคณะก่อนๆ พยายามปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลง พัฒนาให้วิชาชีพนายหน้าประกันภัยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จัดระบบการบริหาร ทิศทางให้รองรับตลาดเสรีประกันภัย และเป็นที่ยอมรับจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย  สมาคมประกันชีวิตไทย  และกรมการประกันภัย ( สำนักงาน คปภ. ในปัจจุบัน)  สมาคมฯ มีโอกาสเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง  การกำหนดยุทธศาสตร์การประกันภัยแห่งชาติกับนายกรัฐมนตรี   ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เข้าร่วมการพัฒนาแก่วงการธุรกิจประกันภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนายหน้าประกันภัยให้เป็นที่ยอมรับในสังคมไทย ทางสมาคมฯ ได้พยายามวางแผนและดำเนินการเพิ่มพูนประโยชน์ทั้งด้านการบริการ ความรู้ด้านประกันภัย และบริหารแก่สมาชิก เพื่อให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพ และขอความร่วมมือร่วมใจกับบรรดาสมาชิกในการสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับสมาคมฯ เป็นกำลังในการพัฒนา สร้างสรรค์ธุรกิจนายหน้าประกันภัยในอนาคต ในขณะเดียวกันทำให้สำนักงาน คปภ. มองเห็นคุณค่าของสมาคมฯ อีกด้วย และเพื่อให้มีความแตกต่างจากนายหน้าที่ไม่ได้เป็นสมาชิกอย่างชัดเจน สมาคมฯ ได้วางวัตถุประสงค์และเป้าหมายหลัก เพื่อให้หมู่มวลสมาชิกช่วยกันปฏิบัติดังนี้

  1. จรรยาบรรณของสมาชิก ซึ่งนำเสนอไปยังกรมการประกันภัย ( สำนักงาน คปภ. ปัจจุบัน)   จึงขอถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  ได้แก่
      • สมาชิกฯ จะประกอบธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และไม่สนับสนุนการกระทำอันเป็นความผิดตามกฎหมาย ผิดศีลธรรมและผิดจริยธรรมใดๆ
      • สมาชิกฯ จะปฏิบัติต่อลูกค้าและผู้รับประกันภัยอย่างเป็นธรรม และยึดถือประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
      • สมาชิกฯ จะปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพและพัฒนาความรู้ ความสามารถให้รองรับต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจโดยตลอด
      • สมาชิกฯ จะประกอบธุรกิจโดยมีระบบการดำเนินงานที่เป็นมาตรฐาน มีการควบคุมที่ดี มีความโปร่งใสเพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้
      • สมาชิกฯ จะรักษาความลับของลูกค้าที่ตนได้ล่วงรู้มาจากการดำเนินธุรกิจอย่างยิ่งยวด ไม่เปิดเผยแก่บุคคลภายนอกอื่นใด ยกเว้นเป็นการเปิดเผยตามหน้าที่หรือตามกฎหมายสมาชิกฯ จะไม่ใช้ถ้อยคำหรือการแสดงออกในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์กิจการของสมาชิกฯ ที่เกินจริง หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

  2. ขอความร่วมมือจากสมาชิก ให้ช่วยกันชักชวน นายหน้านิติบุคคลอื่นๆ ให้เข้ามาเป็นสมาชิก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญช่วยให้สมาคมฯ เป็นปึกแผ่น มีความมั่นคงยิ่งขึ้น

เมื่อปี พ.ศ. 2545 สมาคมฯ สมัครเข้าเป็นสมาชิกของ Council of International Insurance Brokers Associations(CIIBA)  ซึ่งเป็นสหพันธ์นานาชาติที่มีสมาชิกเป็นสมาคมนายหน้าประกันภัยของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งนี้เมื่อมีจำนวนสมาชิกเพิ่มมากขึ้น จึงได้แยกเป็น CAPIBA ( COUNCIL OF ASIA PACIFIC INSURANCE   BROKERS   ASSOCIATIONS)  ซึ่งเป็นสมาชิกของ  WFII   (World Federation of Insurance Intermediaries) ณ วันนี้ สมาคมฯ มีสมาชิกทั้งหมด 84 บริษัท  และได้เปลี่ยนชื่อเป็น สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย (Thai Insurance Brokers Association)  ซึ่งได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วเมื่อวันที่  1 ตุลาคม พ.ศ. 2550

a