คำถาม คำตอบ การช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชน กรณีการเพิกถอนใบอนุญาต บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

คำถาม คำตอบ การช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชน กรณีการเพิกถอนใบอนุญาต บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

คำถาม คำตอบเกี่ยวกับการเพิกถอนใบอนุญาต

บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

  1. คำถาม : สาเหตุของการเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

คำตอบ : เนื่องจากบริษัทมีปัญหาฐานะและการดำเนินงาน มีการฝ่าฝืนกฎหมายหลายประการอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ดังนี้

  • ดำรงเงินกองทุนไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
  • ดำรงทรัพย์สินสำหรับเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัท เงินสำรอง
    ค่าสินไหมทดแทนและเงินสำรองอื่นของบริษัทประกันวินาศภัยตามมาตรา 23 และจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย ตามมาตรา 27/4 ไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
  • ยื่นงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงหลายครั้ง มีพฤติกรรมปิดบังซ่อนเร้นฐานะการเงินหรือการดำเนินการ โดยบันทึกรายการหนี้สินจากการประกันภัยต่อ และเงินสำรองค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับรายงานแล้ว ต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้สำนักงาน คปภ. ไม่ทราบฐานะการเงินที่แท้จริงของบริษัท
  • ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทอย่างมีเงื่อนไขเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องอันเป็นสาระสำคัญ เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน

เพื่อมิให้ปัญหาลุกลามทำให้ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนเดือดร้อนเพิ่มขึ้น นายทะเบียนโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ตามมติที่ประชุม คปภ. ครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 มีคำสั่งที่ 17/2561 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561 สั่งให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว และกำหนดเงื่อนไข 4 ข้อ ให้บริษัทดำเนินการ โดยให้ดำเนินการให้แล้วสร็จภายในวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ซึ่งในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งปรากฏว่าบริษัทยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินงานตามคำสั่งนายทะเบียนอย่างมีนัยสำคัญ โดยสำนักงาน คปภ. ได้ ติดตามและกำชับเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทเร่งรัดการดำเนินการเพื่อแก้ไขฐานะและดำเนินการตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 17/2561 มาโดยตลอด

ก่อนครบกำหนดเวลาแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการ บริษัทได้ขอขยายเวลาการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินการ โดยให้เหตุผลว่ามีความคืบหน้าในการแก้ไขฐานะการเงินและการดำเนินการ โดยการเพิ่มทุนเป็นเงินสด และมีแผนการดำเนินการที่จะเพิ่มทุนโดยการแปลงหนี้เป็นทุน นายทะเบียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ในการประชุม คปภ. ครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2561 พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทมีความคืบหน้าในการแก้ไขฐานะและการดำเนินการโดยได้เพิ่มทุนมาแล้วบางส่วนและอยู่ระหว่างแก้ไขฐานะด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน จึงมีคำสั่ง    ที่ 35/2561 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ให้ขยายระยะเวลาการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินการออกไปจนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2561 โดยบริษัทยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวที่กำหนดเงื่อนไข 4 ข้อ ทั้งนี้ หากปรากฏหลักฐานว่าเจ้าหนี้ของบริษัทได้ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัทตามคำร้องขอขยายระยะเวลา ภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ให้ขยายระยะเวลาแก้ไขฐานะและการดำเนินการออกไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน 2561 แต่หากเจ้าหนี้ของบริษัทดังกล่าวไม่ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัทภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ให้นายทะเบียนนำเสนอคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป โดยสำนักงาน คปภ. ได้เผยแพร่คำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว และได้แจ้งคำสั่งนี้ให้บริษัททราบและเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ โดยละเอียดแล้ว และระหว่างช่วงเวลาที่กำหนดตามคำสั่งของนายทะเบียน สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามและประเมินผลการแก้ไขปัญหาของบริษัทอย่างใกล้ชิด ทั้งยังให้โอกาสบริษัทชี้แจงและแสดงหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณา แต่จนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดตามเงื่อนไขในคำสั่งนายทะเบียนที่ 35/2561 บริษัทยังไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ โดยไม่ปรากฏหลักฐานต่อนายทะเบียนว่าเจ้าหนี้ของบริษัทได้ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัทภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 อีกทั้งบริษัทยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการได้ครบถ้วน ได้แก่ ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน จำนวน 267.78 ล้านบาท มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนจำนวนร้อยละ -210.28 จัดสรรเงินสำรองตามมาตรา 23 และจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัยตามมาตรา 27/4 ไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด จำนวน 79.44 ล้านบาท และ 157.18 ล้านบาท ตามลำดับ แม้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและรับรองงบการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 แต่รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งเป็นลักษณะที่เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ดังนั้น หากให้บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน สำนักงาน คปภ. ด้วยความเห็นชอบของ คปภ. ได้นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังใช้อำนาจตามความในมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 เสนอให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท โดยต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เห็นชอบตามที่เสนอ จึงมีคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1213/2561 ลงวันที่ 7 กันยายน 2561 เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในการนี้ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 60 และมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 แต่งตั้งกองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้ชำระบัญชี

 

 

  1. คำถาม : เงื่อนไข 4 ข้อ ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 17/2561 ในระหว่างการสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวที่สั่งให้บริษัทแก้ไขมีอะไรบ้าง

คำตอบ : เงื่อนไข 4 ข้อ คือ

  1. ต้องดำรงเงินกองทุนให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
  2. ต้องยื่นรายงานประมาณการฐานะการเงินและความเพียงพอของเงินกองทุนเป็นรายไตรมาส
    เป็นระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ. 2561
  3. ต้องปรับปรุงการบันทึกรายการบัญชีให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง เพื่อให้งบการเงินของบริษัทมีความน่าเชื่อถือ และผ่านการรับรองจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่แสดงความเป็นแบบไม่มีเงื่อนไข

หรือแบบมีเงื่อนไข ในลักษณะที่ไม่เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน

  1. จัดให้มีระบบงานและบุคลากรที่มีคุณภาพ ได้แก่ ระบบบัญชีการเงิน ระบบการรับเงินจ่ายเงิน ระบบการจัดการค่าสินไหมทดแทน ระบบการบริหารความเสี่ยง ระบบควบคุมภายในที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และให้มีคู่มือการปฏิบัติงานของพนักงานเป็น
    ลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งให้มีการทดสอบระบบงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

  1. คำถาม : สำนักงาน คปภ. ได้เข้าไปตรวจสอบ ควบคุม และป้องกันมิให้เกิดความเสียหายลุกลามอย่างไร

คำตอบ : สำนักงาน คปภ.ได้ติดตามการดำเนินงานของบริษัทมาโดยตลอด และมีข้อสงสัยว่า บริษัทอาจมีการทำธุรกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งสำนักงาน คปภ.ได้เข้าตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานในเชิงลึกจนพบว่า มีการบันทึกบัญชีไม่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงมีผลให้บริษัทดำรงเงินกองทุน จัดสรรทรัพย์สินไว้ตามมาตรา 23 และมาตรา 27/4 ไม่ครบถ้วน สำนักงาน คปภ.จึงได้นำเสนอต่อที่ประชุม คปภ.เพื่อขอความเห็นชอบให้นายทะเบียนสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการห้ามมิให้บริษัทขยายการรับประกันวินาศภัย และกระทำการระงับธุรกรรมทั้งหมดโดยสำนักงาน คปภ. ได้เข้าควบคุมธุรกรรมการเงินเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ระหว่างที่บริษัทต้องคำสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวและ
อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาตามคำสั่งฯ จะไม่มีการโยกย้ายทรัพย์สิน หรือมีการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชน

 

  1. คำถาม : การเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะกระทบต่อ
    ผู้เอาประกันภัยหรือไม่ และสำนักงาน คปภ. มีแนวทางการเยียวยาผลกระทบอย่างไร

คำตอบ : สำนักงาน คปภ. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผู้เอาประกันภัยของบริษัทที่มีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทน หรือมีภาระผูกพันตามกรมธรรม์ประกันภัย โดยได้จัดทำโครงการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย และผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย และขอให้บริษัทประกันวินาศภัยที่มีฐานะการเงินมั่นคงที่มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนเกินกว่าร้อยละ 200 เข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีบริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 26 บริษัท ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเลือกบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการได้

 

  1. คำถาม : แนวทางการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชนมีอย่างไร

 

คำตอบ : แนวทางการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชนมี ดังนี้

  1. กรณีกรมธรรม์ที่ยังไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเกิดขึ้น บริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ
    จะเข้ารับช่วงและให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยที่เข้ามาติดต่อบริษัท โดยมีเงื่อนไขว่า
    ผู้เอาประกันภัยจะต้องทำสัญญาประกันภัยประเภทและชนิดเดียวกันนั้นกับบริษัทต่อไป
    โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับการขยายความคุ้มครองเพิ่มเติมตามระยะเวลาที่ยังคงเหลืออยู่จากกรมธรรม์เดิม โดยไม่มีการคิดเบี้ยประกันภัยเพิ่ม แต่ต้องโอนสิทธิที่จะได้รับเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่เหลือจากกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้แก่บริษัทที่รับโอนกรมธรรม์ประกันภัยนั้นด้วย
  2. กรณีที่กรมธรรม์มีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว การเรียกร้องค่าเสียหายนั้นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยผู้ชำระบัญชีของบริษัทที่รัฐมนตรีมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต โดยสำนักงาน คปภ.

ในทุกพื้นที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนเป็นเบื้องต้น

 

  1. คำถาม : บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย จำนวน 26 บริษัท ประกอบด้วยบริษัทใดบ้าง

คำตอบ : บริษัทประกันภัย จำนวน 26 บริษัท มีรายชื่อดังต่อไปนี้

ที่

ชื่อบริษัท

รายชื่อผู้ให้บริการ

ช่องทางติดต่อ

1

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณสุภาษ  เหลืองศิริมีชัย โทร. 02-285–7911
E-mail : supas.l@bangkokinsurance.com

  คุณเกษม เจริญจรัสกุล โทร. 02-285-8941
E-mail : kasame@bangkokinsurance.com
  คุณปริศนา  ช่วยจตุรัส โทร. 02-285-8935
E-mail : pritsana.c@bangkokinsurance.com

2

บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณอรุณ  เพชรรัตน์ โทร. 02-624-1111 ต่อ 3312

E-mail : arun.p@kpi.co.th

คุณเบญจมาศ เบญจทวีพล โทร. 02-624-1111 ต่อ 3312

E-mail : benjamart.b@kpi.co.th

3

บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด คุณจีระศักดิ์  รอบแคว้น โทร. 02-100-9191 ต่อ 5711
มือถือ 086-600-5106
โทรสาร 02-248-6977
E-mail : Jeerasakr@rvp.co.th
ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1791

4

บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 0-2612-9888

E-mail : info@generali.co.th

  แผนกบริการลูกค้า โทร. 02-611-4000

Email: customerservice.th@chubb.com

5

บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณวีรชัย วงศ์สินธุ์เชาว์ โทร. 02-611-3860
Email: veerachai.wongsinchao@chubb.com
  คุณวรินทร ปฐมรัตน์ โทร. 02-611-3862
Email: Varintohn.Pathomrat@chubb.com

6

บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณปิยะ วราอุบล โทร. 02-651-5995 ต่อ 301
มือถือ 084-664-5551
โทรสาร 02-650-9720
E-mail: Piya.Vara-ubol@Cigna.com

7

บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คุณสุรสิทธิ์  ศิริจิระพัฒนา โทร. 02-686-8888 ต่อ 1327
E-mail : Surasit.Sirijirapatana@tokiomarine.co.th

8

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณปราณี มณีสว่างวงศ์ โทร.02-118-4000 ต่อ 2133
E-mail : pranees@dhipaya.co.th

9

บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณทิพวรรณ เหลืองสกุลพงษ์ โทร. 02-080-1599  ต่อ 6163
E-mail: thippawan@deves.co.th
  คุณจิราภรณ์ จันทร์สมปอง โทร. 02-080-1599  ต่อ 6111
E-mail: chiraporn@deves.co.th

10

บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณวีริยา เหลืองธาดา โทร. 02-613-0100 ต่อ 601-602
E-mail : veeriya@thaiins.com

11

บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณสรชา  สวัสดิ์วุฒิพงษ์ โทร. 02-878-7129
E-mail : sorracha.sa@thaisri.com
คุณกิตติศักดิ์  ดุลยกาญจน์ โทร. 02-878-7113
E-mail : kittisak.du@thaisri.com

12

บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน)

 

คุณตรีรัตน์ ยศวัฒนะกุล โทร. 02-308- 9265
E-mail : threerat.yos@thanachart.co.th
คุณสุลีพร  แก้วสีหมอก โทร. 02-308-9300  ต่อ 2881
E-mail : suleeporn.kaw@thanachart.co.th

13

บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณอัญชลี ชัยวงศ์ขจร โทร. 02-664-7777  ต่อ 1711

E-mail : anchalee_c@navakij.co.th

14

บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) คุณนันทิยา เจริญจิตรตระกูล โทร. 02-257-8424
  คุณบุปผารัตน์ จารุเศรษฐการ โทร. 02-257-8426
คุณชฎาพร ภัทรวิศิษฏ์สัณธ์ chadapornp@safety.co.th

15

บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) คุณชุติมณฑน์ นุ่มรัตน์ โทร. 02-695-0800 ต่อ 2981
Email : Chutimon_num@thaivivat.co.th
  คุณราตรี โพธิ์ศรี  โทร. 02-695-0800 ต่อ 2953
Email : agent07@thaivivat.co.th

16

บริษัท พุทธธรรมประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณอรทัย ขนุนทอง โทร.02-585-9009 ต่อ 3400
มือถือ 089-488-1876
E-mail : pti.motor@hotmail.com
  คุณสมบูรณ์ แก้วกิตติกาญจนา โทร.02-585-9009 ต่อ 3300

มือถือ 089-667-6879

E-mail : pti2006@yahoo.com

17

บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณประวิทย์ พิชญ์พิธาน โทร. 02-676-9888 ต่อ 150
Email: pravitp@falconinsurance.co.th

18

บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ สาขาประเทศไทย คุณหิรัญญา ชั่งดวงจิตร์ โทร. 02-679-6165-87 ต่อ 3102
Email: hirunya@ms-ins.co.th

19

บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

 

คุณนริตา บุญสุทธิ์ โทร. 02-640-7777  ต่อ 7815

Email : narita@mittare.com

คุณรุ่งทิพย์ ทองศักดิ์ โทร. 02-640-7777  ต่อ  7812
คุณชุติมา  ศรีพัฒนา โทร. 02-640-7777  ต่อ  6801

20

บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) Call center 1484
คุณจักรี วรรณศิลป์ โทร. 02-665-4000 ต่อ 4760
E-mail: jhakkree.w@muangthaiinsurance.com

21

บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่รับประกันภัยของบริษัทฯ ทุกสาขาทั่วประเทศ โทรศัพท์ สายด่วน 1557
สอบถามข้อมูลผ่านเว็บไซต์บริษัท www.viriyah.co.th

E-mail: info@viriyah.co.th

22

บริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณทิพวดี  คงประเสริฐลาภ โทร. 02-657-2555 ต่อ 2512
E-mail : thipwadee@sagi.co.th

23

บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณอมรศักดิ์ ศรีมงคลชัย โทร. 02-378-7000 ต่อ 7129

E-mail : amornsak_s@smk.co.th

คุณกัญญาณัฐ  ภูบรรทัด โทร. 02-378-7000 ต่อ 1523

E-mail : kunyanut_phu@smk.co.th

24

บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1726
E-mail : seiccare@segroup.co.th

25

บริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด สาขาประเทศไทย

 

คุณวีรชัย วงศ์สินธุ์เชาว์ โทร. 02-6113860
Email: veerachai.wongsinchao@chubb.com
คุณวรินทร ปฐมรัตน์ โทร. 02-6113862
Email: Varintohn.Pathomrat@chubb.com

26

บริษัท ไอโออิ กรุงเทพ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณสุเทพ ขันธโสภา โทร. 02-620-8000 ต่อ 8033
โทรสาร 02-677-3979
มือถือ 081-880-4114
E-mail : suthep@aioibkkins.co.th
คุณเอมอร  ศารทูลสูตร โทรศัพท์ 02 6208000 ต่อ 8706

โทรสาร 02 6773988

E-mail : amon@aioibkkins.co.th

รวม

๒๖

 

 

  1. คำถาม : เจ้าหนี้ของบริษัทจะขอรับชำระหนี้อย่างไร

คำตอบ : สำหรับผู้เป็นเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยของบริษัท ให้ยื่นขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใน 60 วันนับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศ โดยให้นำเอกสารต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 2 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้ กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประจำตัวประชาชน ใบเคลม ใบนัดชำระหนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงถึงมูลหนี้ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)

สำหรับเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัยในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใน 60 วันนับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศ พร้อมทั้งนำเอกสารแสดงความเป็นเจ้าหนี้ ต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 1 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้ หลักฐานแสดงถึงมูลหนี้ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)

หากเจ้าหนี้ไม่สามารถยื่นได้ด้วยตนเอง จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจโดยติดอากรแสตมป์ 30 บาท
พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ยื่นต่อกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะ
ผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

สถานที่ที่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ มีดังต่อไปนี้

  • ส่วนกลางยื่นได้ 3 แห่ง ดังนี้
  1. กองทุนประกันวินาศภัย อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ชั้น 15 เลขที่ 1010 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2791-1444
    ต่อ 11-15 และ 21-24
  2. สำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ เลขที่ 287 ซอยรัชดาภิเษก 6 ถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ
    แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2476-9940-3
  3. สำนักงาน คปภ. เขตบางนา เลขที่ 1/16  อาคารบางนาธานี ชั้น 8 ถนนบางนาตราด
    กม.3 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2361-3769-70
  • ในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถยื่นขอรับชำระหนี้ได้ที่ สำนักงาน คปภ. ภาค และสำนักงาน คปภ. จังหวัด ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เจ้าหนี้สามารถดาวน์โหลดแบบคำทวงหนี้ได้ที่ www.gif.or.th หัวข้อ “แบบฟอร์ม” ได้อีกด้วย

 

  1. คำถาม : เจ้าหนี้ของบริษัทจะได้รับเงินเมื่อใด

คำตอบ : แบ่งเจ้าหนี้เป็น 2 กลุ่ม คือ

  1. เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัยในฐานะ
    ผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศกองทุนประกันวินาศภัย โดยจะนำหลักทรัพย์ประกันและเงินสำรองประกันภัยของบริษัทที่วางไว้กับนายทะเบียนมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ที่ไม่มีข้อโต้แย้ง
    และกองทุนประกันวินาศภัยจะนำเงินของกองทุนประกันวินาศภัยมาจ่ายส่วนที่ขาด (รวมแล้ว
    ไม่เกินหนึ่งล้านบาทต่อราย) ตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่กองทุนกำหนด
  2. เจ้าหนี้อื่น ที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัยในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศกองทุนประกันวินาศภัย และหลังจากที่มีการนำทรัพย์สินของบริษัทจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยครบถ้วนแล้ว หากมีทรัพย์สินของบริษัทเหลือจะนำมาให้แก่เจ้าหนี้อื่น และหากไม่เพียงพอเจ้าหนี้อื่นจะต้องยื่นขอรับชำระหนี้ส่วนที่ขาดจากกองทรัพย์สินในคดีล้มละลายอีกครั้งหนึ่ง

 

 

  1. คำถาม : สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการเพื่อมิให้บริษัทมีการโยกย้ายเงินและทรัพย์สินของบริษัทอย่างไร

คำตอบ :

– ตั้งแต่นายทะเบียนมีคำสั่งที่ 17/2561 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561 สั่งให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว จนถึงการเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท สำนักงาน คปภ. ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน หน่วยงานของรัฐ เป็นต้น เพื่อแจ้งให้ทราบการมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) และขอระงับการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน และได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมการจ่ายเงิน ณ ที่ทำการบริษัท โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่บริษัททุกวันทำการ และได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจ่ายเงินอื่นของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อเสนอความเห็นพิจารณาอนุมัติค่าใช้จ่ายต่างๆ ต่อนายทะเบียน ให้เป็นไปตามรอบคอบ

– ภายหลังจากคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1213/2561 ลว. 7 กันยายน 2561 และคำสั่งแต่งตั้งกองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำนักงาน คปภ. ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน หน่วยงานของรัฐ เป็นต้น เพื่อแจ้งให้ทราบการมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) และดูแลทรัพย์สินของบริษัท มิให้มีการเคลื่อนย้าย หรือยักย้ายถ่ายเท หรือนำออกไปจากสำนักงาน เว้นแต่เป็นการกระทำของผู้ชำระบัญชี

– สำนักงาน คปภ. มีหนังสือสั่งการไปยังผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. ภาค 1 – 9 ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัด และผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ และเขตบางนา เพื่อแจ้งให้ทราบการมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) และให้บริการช่วยเหลือและเยียวยาผู้เอาประกันภัยและประชาชนอย่างเต็มที่

 

  1. คำถาม : การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมประกันภัยไทยหรือไม่ และภาพรวมของธุรกิจประกันวินาศภัยของไทยขณะนี้ เป็นอย่างไร

คำตอบ : กรณีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้มีการดำเนินการตามลำดับขั้นตอน และมีการสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทประสบปัญหาและสำนักงาน คปภ. ให้โอกาสแก้ไขและช่วยเหลือ โดยเฉพาะโครงการแปลงหนี้เป็นทุน โดยบริษัทต้องดำเนินการตามเงื่อนไขที่ คปภ. กำหนดไว้ แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียด จึงพบข้อเท็จจริงอื่นที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายปรากฏเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีคำสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อจำกัดความเสียหายตามมติ คปภ. นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ประสานงานกับกองทุนประกันวินาศภัยอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัยคนปัจจุบัน เป็นผู้มีประสบการณ์ที่สามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับกระบวนการภายหลังการเพิกถอนใบอนุญาตได้ สำหรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอาจจะมีบ้าง แต่ไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรมประกันภัยในภาพรวม เนื่องจากบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเล็กน้อยเพียงร้อยละ 0.06

ทั้งนี้ ปัจจุบันตัวเลขธุรกิจประกันภัยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 มีเบี้ยประกันภัยรับตรง จำนวน 113,381 ล้านบาท อัตราการขยายตัวร้อยละ 4.76 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ และความมั่นคง รวมถึงมีบทบาทที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

  1. คำถาม : แนวทางการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชนมีอย่างไร (ปรับปรุงจากข้อ 5)

 

คำตอบ : แนวทางการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชนมี ดังนี้

11.1 การทำประกันภัยกับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ 26 บริษัท

11.1.1 กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์

– กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.)

กรมธรรม์ประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535
ผู้เอาประกันภัยสามารถขอทำประกันภัยสำหรับความคุ้มครอง 1 ปี และชำระเบี้ยประกันภัย 1 ปี โดยบริษัทประกันภัยจะขยายระยะเวลาความคุ้มครองเพิ่มเติมให้เท่ากับระยะเวลาประกันภัยที่เหลืออยู่ตามกรมธรรม์ประกันภัยเดิม โดยไม่คิดค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่ม

– กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (ภาคสมัครใจ)

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (ภาคสมัครใจ) ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกทำประกันภัยตามที่บริษัทประกันภัยเสนอให้ความช่วยเหลือได้เป็น 2 แนวทาง คือ

1) ผู้เอาประกันภัยสามารถขอทำประกันภัยสำหรับความคุ้มครอง 1 ปี และชำระเบี้ยประกันภัย 1 ปี โดยบริษัทประกันภัยจะขยายระยะเวลาความคุ้มครองเพิ่มเติมให้เท่ากับระยะเวลาประกันภัยที่เหลืออยู่ตามกรมธรรม์ประกันภัยเดิม โดยไม่คิดค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่ม

2) ผู้เอาประกันภัยสามารถขอทำประกันภัยสำหรับความคุ้มครอง 1 ปี โดยบริษัทประกันภัยจะคำนวณเบี้ยประกันภัยที่จะใช้เป็นส่วนลดตามวิธี Pro rata ตามระยะเวลาความคุ้มครองที่เหลืออยู่ตามกรมธรรม์เดิม ทั้งนี้ส่วนลดที่จะให้แก่ผู้เอาประกันภัยจะไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของเบี้ยประกันภัยเต็มปีของกรมธรรม์ประกันภัยเดิม

11.1.2 กรมธรรม์ประกันภัยอื่นๆ

ผู้เอาประกันภัยสามารถขอทำประกันภัยสำหรับความคุ้มครอง 1 ปี และชำระเบี้ยประกันภัย 1 ปี โดยบริษัทประกันภัยจะขยายระยะเวลาความคุ้มครองเพิ่มเติมให้เท่ากับระยะเวลาประกันภัยที่เหลืออยู่ตามกรมธรรม์ประกันภัยเดิม โดยไม่คิดเบี้ยประกันภัยเพิ่ม

สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยที่มีความคุ้มครองเกิน 1 ปี เช่น กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน กล่าวคือ หากเป็นกรมธรรม์ประกันภัยที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 3 ปี และมีอายุการประกันภัยเหลือเท่าใด บริษัทจะรับประกันภัยตามระยะเวลาเดิม (3 ปี) โดยบริษัทประกันภัยจะขยายระยะเวลาความคุ้มครองเพิ่มเติมให้เท่ากับระยะเวลาประกันภัยที่เหลืออยู่ตามกรมธรรม์ประกันภัยเดิม โดยไม่คิดเบี้ยประกันภัยเพิ่ม (3 ปีบวกระยะเวลาที่เหลือ)

โดยผู้เอาประกันภัยสามารถติดต่อกับบริษัทประกันภัยหรือสาขา พร้อมหลักฐาน ดังต่อไปนี้

– กรมธรรม์ประกันภัยเดิม

– สำเนาบัตรประชาชน

– ใบเสร็จรับเงิน

– หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)

การรับโอนกรมธรรม์

โดยปกติจะต้องมีหนังสือบอกเลิกกรมธรรม์จากกองทุนประกันวินาศภัยมายื่นต่อบริษัทประกันภัยที่เป็นฝ่ายรับโอนกรมธรรม์ด้วย จึงจะสามารถรับโอนกรมธรรม์ดังกล่าวได้ แต่ปัจจุบันกองทุนประกันวินาศภัยยังไม่ได้มีหนังสือบอกเลิกกรมธรรม์ไปยังผู้เอาประกันภัย ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย จึงให้บริษัทประกันภัยที่เป็นฝ่ายรับโอนกรมธรรม์สามารถรับโอนกรมธรรม์ได้โดยไม่ต้องมีหนังสือบอกเลิกกรมธรรม์จากกองทุนประกันวินาศภัย

11.2 แนวทางในการเรียกร้องค่าเสียหาย แบ่งออกเป็น 2 กรณี

11.2.1 กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์

ตามที่ คณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ ได้ประสานงานกับกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชี เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติในการดูแลผู้เอาประกันภัย รวมทั้งคู่กรณีของผู้เอาประกันภัยที่ทำประกันภัย ไว้กับบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)  จึงได้กำหนดแนวทางชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ดังนี้

– ในกรณีที่รถของผู้เอาประกันภัยกับบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นฝ่ายผิด ขอให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถฝ่ายถูก รับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยของบริษัทตนเองถือเสมือนไม่มีสัญญาสละสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายซึ่งกันและกัน และสามารถรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนคืนได้จากผู้ชำระบัญชี หรือกองทุนประกันวินาศภัย โดยตรง (โดยใช้สำเนากรมธรรม์ประกันภัยและบันทึกยอมรับผิดของผู้ขับขี่หรือผู้เอาประกันภัย รถคันที่เอาประกันภัยกับบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด(มหาชน) และภาพถ่ายความเสียหาย เป็นหลักฐานประกอบการเรียกร้อง)

– ในกรณีที่รถของผู้เอาประกันภัยกับบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นฝ่ายถูก ขอให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถฝ่ายผิด ดำเนินการจัดซ่อม หรือชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่เป็นฝ่ายถูก เสมือนไม่มีสัญญาสละสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายซึ่งกันและกัน

ทั้งนี้ หากมีความเสียหายสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยประเภทรถยนต์เกิดขึ้น โดยไม่มีคู่กรณี
การเรียกร้องค่าเสียหายนั้นให้เป็นไปตามประกาศกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของ ของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ 2/2561 เรื่อง ให้เจ้าหนี้ยื่นคำทวงหนี้ของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งกำหนดให้เจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัย ยื่นคำทวงหนี้ต่อผู้ชำระบัญชี ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2561 สิ้นสุดวันที่ 27 ธันวาคม 2561 โดยสามารถยื่นคำทวงหนี้ต่อผู้ชำระบัญชี ได้ที่กองทุนประกันวินาศภัย

11.2.2 กรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่น

การเรียกร้องค่าเสียหายนั้นให้เป็นไปตามประกาศกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของ ของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ 2/2561 เรื่อง ให้เจ้าหนี้ยื่นคำทวงหนี้ของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งกำหนดให้เจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัย ยื่นคำทวงหนี้ต่อผู้ชำระบัญชี ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2561 สิ้นสุดวันที่ 27 ธันวาคม 2561 โดยสามารถยื่นคำทวงหนี้ต่อผู้ชำระบัญชี ได้ที่กองทุนประกันวินาศภัย และสำนักงาน คปภ.ในทุกพื้นที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนเป็นเบื้องต้น

ที่มา : http://www.oic.or.th/th/consumer/news/releases/88777

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *