ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2561 ตนพร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงาน คปภ. เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน ผู้ไกล่เกลี่ยของ สำนักงาน คปภ. ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต และภาคธุรกิจประกันภัย ได้ลงพื้นที่ชุมชนบ้านโนนสัง ตำบลโนนสัง อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ในรูปแบบ Mobile Insurance Unit หรือศูนย์บริการประชาชนด้านการประกันภัยเคลื่อนที่แบบครบวงจร เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาทหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. และให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ให้ความช่วยเหลือและรับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยผ่าน Mobile Complaint Unit หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยเคลื่อนที่ รวมทั้งลงพื้นที่ในชุมชนเพื่อศึกษาวิถีชีวิตของชาวชุมชนและรับฟังสภาพปัญหาด้านการประกันภัย ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมฐานเรียนรู้ต่างๆภายในชุมชน ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามของการลงพื้นที่ตาม“โครงการ คปภ. เพื่อชุมชนปี 2” ประจำปี 2561
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก นายโชติ เชื้อโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูและนายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีนายสุพล แก้วปัญญา สมาชิกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู พาเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของผู้คนภายในชุมชน รวมทั้งเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ อาทิ ฐานเรียนรู้แหล่งโบราณคดีกุดกวางสร้อยชมผ้าไหมกุดกวางสร้อย ฐานเรียนรู้ตลาดปลาท่าศิลา ฐานเรียนรู้ช่องเขาขาด รวมทั้งมีการถ่ายทำรายการกิจกรรมการเรียนรู้และการเสวนาเพื่อนำไปออกรายการโทรทัศน์เผยแพร่ให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับชมผ่านรายการโทรทัศน์ทีวีดิจิทัลช่องอัมรินทร์ทีวี (ช่อง 34 )
นอกจากนี้เพื่อเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เหมาะสมและสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้กับชาวชุมชนบ้านโนนสังแบบครบวงจร สำนักงาน คปภ. ได้จัดเวทีเสวนาให้ความรู้ด้านประกันภัยภายใต้หัวข้อ “ประกันภัยน่ารู้ สู่ชุมชน” โดยมีคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงาน คปภ. อาทิ นายชัยยุทธ มังศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ นางคนึงนิจ สุจิตจร ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย และนายอดิศร พิพัฒน์ วรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวางแผนและพัฒนากฎหมาย สำนักงาน คปภ. ตลอดจนนายกี่เดช อนันต์ศิริประภา ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยมีนายชนะพล มหาวงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค เป็นผู้ดำเนินรายการ
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ชุมชนบ้านโนนสังในครั้งนี้ นอกจากรับฟังสภาพปัญหาด้านประกันภัยของชุมชนแห่งนี้แล้ว ยังได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. หนองบัวลำภู ด้วยว่าในพื้นที่อำเภอโนนสัง มีจำนวนรถจักรยานยนต์ที่จัดทำประกันภัยภาคบังคับ (ประกัน พ.ร.บ.) ประมาณ 49% ซึ่งเป็นอัตราที่น้อยกว่าอำเภออื่นๆ ขณะเดียวกันมีการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจำนวนมาก เนื่องจากประชาชนไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) นอกจากนี้ยังพบว่าเกษตรกรให้ความสำคัญในการทำประกันภัยข้าวนาปีน้อยมาก เนื่องจากอำเภอโนนสังเป็นพื้นที่รับน้ำใต้เขื่อนอุบลรัตน์ โดยเห็นได้จากปี 2560 มีเกษตรกรทำประกันภัยข้าวนาปีจำนวน 4,416 ราย พื้นที่จำนวน 43,457 ไร่ ในขณะที่ปี 2561 มีเกษตรกรทำประกันภัยข้าวนาปีจำนวน 48 ราย พื้นที่จำนวน 611 ไร่ อีกทั้งในพื้นที่มักเกิดอุทกภัย อันเนื่องมาจากร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้พืชสวน ไร่ นา บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอยู่เนื่องๆ รวมทั้งพบว่าใน 6 อำเภอของจังหวัดหนองบัวลำภู มีสภาพปัญหาเกี่ยวกับสารเคมีพาราควอตอะมิทรีนอาทราซีน มีความเข้มข้นสูงทั้งในดิน ตะกอนดิน อ่างเก็บน้ำ น้ำประปา และผัก ในปริมาณที่สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในปริมาณสูง โดยเฉลี่ย 1.73 ลิตรต่อไร่ ส่งผลทำให้ประชาชนในพื้นที่ป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า
ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จะเร่งรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอโนนสัง ให้ตระหนักถึงความสำคัญต่อการนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพทั้งประกันภัยประเภทที่กฎหมายบังคับและประกันภัยประเภทสมัครใจ เช่น การรณรงค์ให้รถจักรยานยนต์ทำประกันภัย พ.ร.บ.ในส่วนกรมธรรม์ภาคสมัครใจ เช่น กรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) หรือประกันภัย 100 กรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) หรือประกันภัย 200 ซึ่งเหมาะกับประชาชนผู้มีรายได้น้อยในชุมชนบ้านโนนสูง กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล กรมธรรม์ประกันสุขภาพ กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์อัคคีภัย รวมทั้งการทำประกันภัย นาข้าวปีอีกด้วย
การลงพื้นที่ชุมชนบ้านโนนสังในครั้งนี้มีความแตกต่างจากการลงพื้นที่ตามโครงการ คปภ. เพื่อชุมชนในครั้งก่อนๆ เนื่องจากมีการจัดกิจกรรมด้านประกันภัยเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบาย สำนักงาน คปภ. อาทิ กิจกรรม ประกันภัย พ.ร.บ. 100% เพื่อรณรงค์ให้รถจักรยานยนต์ทุกคันทำประกันภัย พ.ร.บ. โดยได้รับความร่วมมือจากผู้แทนสมาคมนายหน้าประกันภัยไทยให้บริการทำประกันภัย พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ (ไม่เกิน 125 ซีซี) พร้อมออกกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงาน คปภ. เพื่อชุมชนโนนสัง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ มูลค่ากรมธรรม์ละ 325 บาท จำนวน 100 คัน รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการทำ (ประกันภัย 100) หรือ ประกันอุบัติเหตุรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกระดับเข้าถึงระบบประกันภัยและใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม โดยมีการให้บริการทำประกันภัย 100 หรือ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) พร้อมออกกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงาน คปภ.เพื่อชุมชนโนนสัง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ มูลค่ากรมธรรม์ละ 100 บาท คุ้มครองการเสียชีวิตสูงสุด 100,000 บาทต่อปี จำนวน 100 กรมธรรม์ ให้กับประชาชนที่มีอายุระหว่าง 20-60 ปีบริบูรณ์ เพียงแค่นำบัตรประชาชนมายื่นก็จะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยทันที ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
ที่มา : http://www.oic.or.th/th/consumer/news/releases/88812