ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. มีนโยบายให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการยกระดับมาตรฐานพฤติกรรมทางการตลาดของธุรกิจประกันภัย โดยได้มีการจัดประชุมทำความเข้าใจกับภาคธุรกิจประกันภัยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาช่องทางการจำหน่าย ส่งเสริมและกำกับดูแลให้ตัวแทน/นายหน้าประกันภัยมีมาตรฐานจรรยาบรรณและแนวปฏิบัติที่ดีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อประชาชน ตลอดจนดูแลประชาชนผู้เอาประกันภัยภายหลังที่มีการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย เพื่อให้ประชาชนในวงกว้างเกิดความเชื่อมั่นในระบบประกันภัยและใช้ประโยชน์จากระบบประกันภัยได้อย่างเพียงพอและทั่วถึง ส่งผลให้ครึ่งปีแรกของปี 2561 (มกราคม – มิถุนายน) ธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรงผ่านช่องทางการขายจาก ตัวแทน ธนาคาร โทรศัพท์ นายหน้า ไปรษณีย์ และช่องทางอื่น รวมทั้งสิ้น 311,772 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.53 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งช่องทางการขายผ่าน “ธนาคาร” มีพัฒนาการการขายที่โดดเด่น มีเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรงสูงสุด จำนวน 148,788 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 47.72 ของเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรงรวมทุกช่องทาง มีอัตราการขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 7.15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาคือช่องทางการขายผ่าน “ตัวแทน” มีเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรง จำนวน 140,822 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45.17 มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 0.68 ตามมาด้วยการขายผ่านช่องทาง “โทรศัพท์” มีเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรง จำนวน 9,440 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.03 มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 7.93
สำหรับธุรกิจประกันวินาศภัยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงผ่านช่องทางการขายจาก นายหน้า ธนาคาร ตัวแทน องค์กร ติดต่อโดยตรง โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต ไปรษณีย์ และช่องทางอื่น รวมทั้งสิ้น 114,302 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งช่องทางการขายผ่าน “นายหน้า” ยังคงมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงสูงสุด จำนวน 66,548 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 58.22 ของเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทุกช่องทาง มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 6.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาคือช่องทางการขายผ่าน “ธนาคาร” มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง จำนวน 15,754 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.78 มีอัตราการขยายตัวที่โดดเด่นที่ร้อยละ 10.99 และการขายผ่านช่องทาง “ตัวแทน” มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงเป็นอันดับ 3 จำนวน 15,438 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.51 หดตัวลงร้อยละ 6.87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวต่อว่าสำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 สำนักงาน คปภ. ยังคงมีแผนยกระดับการให้บริการและพฤติกรรมในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มความเข้มข้นในการกำกับดูแลคนกลางประกันภัย ซึ่งเป็นช่องทางที่สำคัญในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัย โดยจะมีการปรับปรุงกติกาในการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย ตลอดจนระบบตรวจสอบการปฏิบัติงานของคนกลางประกันภัยเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในกระบวนการขายและการดูแลกรณีเกิดปัญหาในเรื่องประกันภัย ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบและออกสุ่มตรวจสำนักงานตัวแทนประกันภัยและสำนักงานนายหน้าประกันภัยโดยจะมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันทั่วประเทศ และดำเนินการตามแผนการเข้าตรวจสอบ ทั้งการตรวจสอบประจำปี (annual examination) เพื่อตรวจสอบติดตามการดำเนินงานของบริษัทประกันภัยป้องกัน/หรือลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนผู้เอาประกันภัยในอนาคต และการตรวจสอบเฉพาะ ซึ่งเป็นการตรวจสอบช่องทางการขายผ่านธนาคารพาณิชย์ และการตรวจสอบสื่อโฆษณา รวมถึงการเชิญบริษัทประกันภัย เพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจและการควบคุมคุณภาพการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย รวมทั้งรับทราบประเด็นปัญหาในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย และ “เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้บริโภคในยุคดิจิทัล สำนักงาน คปภ. ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น : รอบรู้ประกันภัย ซึ่งผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยแอพพลิเคชั่นนี้ จะให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการประกันภัย รวมถึงสามารถตรวจสอบว่าตัวแทน/นายหน้าที่เข้ามาเสนอขายประกันภัยได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย