นายสืบพงษ์ สมิตทันต์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับกรมกิจการผู้สูงอึายุ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมจัดงานใหญ่ “อินเตอร์แคร์ เอเชีย 2018” ระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โชว์นวัตกรรม พร้อมสินค้า และบริการ จากผู้ประกอบการชั้นนำทั้งไทยและเทศร่วมจัดแสดง รับมือสังคมวัยเกษียณ คาดเงินสะพัดกว่า 550 ล้านบาท และมีผู้ร่วมงานมากกว่า 5,000 คน
โดยล่าสุดมีการคาดการณ์ว่าในปี 2563 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นกว่า 12.6 ล้านคน ในปี 2573 เพิ่มเป็น 17.6 ล้านคน และในปี 2583 เพิ่มเป็น 20.5 ล้านคน ส่งผลให้เกิดความต้องการสินค้า บริการ รวมถึงเทคโนโลยีนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องมากขึ้น โดยมูลค่าตลาดสินค้า และบริการผู้สูงอายุในประเทศไทยนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีการจัดทำที่ชัดเจนแต่เชื่อว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท นีโอ จึงได้จัดงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย ขึ้นเพื่อมาตอบสนองความต้องการดังกล่าวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
นอกจากนี้ อินเตอร์แคร์ เอเชีย ยังเป็นเวทีที่แสดงให้นานาประเทศเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ และธุรกิจบริการด้านสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุของภูมิภาคอีกด้วย
สำหรับรูปแบบการจัดงานในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น 5 โซน ประกอบไปด้วยผู้ประกอบการชั้นนำ ทั้งในประเทศ และจากต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมงาน สามารถเลือกชมและซื้อผลิตภัณฑ์ ได้แก่
- Homecare & Equipment ซึ่งจะมีอุปกรณ์และเครื่องมือในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ เช่น วิลแชร์ วอร์คเกอร์ อุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
- Rehabilitation จะมีอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการดูแลช่วยเหลือและปกป้องผู้สูงอายุ เช่น หุ่นยนต์ผู้ช่วย ศูนย์กระดูกและข้อ เครื่องช่วยฟัง
- Medical Tourism หรือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น สปา ฟิตเนส และสถานบริการนวดแผนไทย Long stay
- Service จะมีสินค้าและสถานบริการสำหรับดูแลและช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการ เช่น Nursing Home วีลแชร์ ติดตั้งบนรถสำหรับผู้พิการ โรงพยบาลที่ดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
- Nutritional Food ซึ่งจะมีสินค้า และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารเสริมและสมุนไพร อาหารเฉพาะโรคมาจัดแสดง
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงสินค้าและบริการของกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตตามความต้องการของผู้สูงอายุ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งต้องมีการออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพ และวิถีการดำเนินชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุ
ด้านนางสาวอาภา รัตนพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศักยภาพผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ และเตรียมความพร้อมสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ อาทิ สนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลกับผู้ประกอบการได้ถึง 100% ของเงินที่จ่ายให้ลูกจ้างสูงอายุที่เข้าทำงาน การสร้างที่พักอาศัยพร้อมสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ การบูรณาการระบบบำเหน็จบำนาญเพื่อผู้สูงอายุ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ภาคเอกชนที่ประกอบการเกี่ยวกับการจัดสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ
ขณะที่นายมรกต สุดดี รองผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ททท.เล็งเห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัย (Silver Age) จึงได้ทำเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวสูงวัย หรือกลุ่มวัยเก๋า ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปี ขึ้นไป
ทั้งนี้ ททท. ได้เปิดตัวโครงการ “เก๋ายกก๊วน ชวนเที่ยวไทย” ภายใต้แนวคิด “วัยเก๋า ไม่ใช่วัยที่ไปเที่ยวไหนไม่ได้” โดยได้เตรียมความพร้อมสำหรับกลุ่มวัยเก๋า ไว้อย่างลงตัว เพื่อให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุขและเหมาะสม ซึ่งจะแนะนำตั้งแต่เรื่องของการเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง แผนการเดินทาง การเตรียมร่างกาย และที่สำคัญคือ เส้นทางในการท่องเที่ยวที่น่าประทับใจใน 5 ภูมิภาค ซึ่งททท.จะนำสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว อาทิ โรงแรมที่พัก แหล่งท่องเที่ยว รายการนำเที่ยว สำหรับผู้สูงวัยมานำเสนอขายภายในงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2018 ด้วย
ที่มา : https://www.innwhy.com/news130661/