ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ได้เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง หมายเลขทะเบียนหัว 79-6606 กรุงเทพมหานคร และส่วนหางหมายเลขทะเบียน 79-8003 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถ 3 คันที่ จอดอยู่บริเวณไหล่ทาง คือ 1. รถยนต์ หมายเลขทะเบียน ฆง-6408 กรุงเทพมหานคร 2. รถยนต์บรรทุก หมายเลขทะเบียน 72-0804 นครปฐม และ 3. รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ถส-3339 กรุงเทพมหานคร 2561 บนพื้นที่ ตำบลบางนาง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 7 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
จากการติดตามและประสานงานอย่างใกล้ชิดของสำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง สำนักงาน คปภ. จังหวัดชลบุรี และสำนักงาน คปภ. จังหวัดศรีสะเกษ พบว่า รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ฆง-6408 กทม.ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัทประกันคุ้มภัยจำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ DM7260RS0683001001 เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 8 ธันวาคม 2561 และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 1 DM7060RS3679 เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 8 ธันวาคม 2561 2. รถยนต์บรรทุก หมายเลขทะเบียน 72-0804 นครปฐม ไม่พบข้อมูลการทำประกันภัย 3.รถยนต์กระบะ เลขทะเบียน ถส-3339 กรุงเทพมหานคร ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัทเจ้าพระยาประกันภัย จำกัด(มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 00061MC0/6101/00109-6 เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 20 มกราคม 2562 และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท2+ กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 00061V5016101/00001-0 เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 20 มกราคม 2561 4.รถพ่วงหมายเลขทะเบียนหัว 79-6606 กรุงเทพมหานคร ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท แอลเอ็มจีประกันภัยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 15AC1000298200000201706 เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2560 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 มิถุนายน 2561 และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 กรมธรรม์ที่ 15AV3000079400000201707 เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2560 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2561 และส่วนหางหมายเลขทะเบียน 79-8003 กรุงเทพมหานคร ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท แอลเอ็มจีประกันภัยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่15AC1000446300000201709 เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 30 2560 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2561
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ.จังหวัดศรีสะเกษ เร่งประสานกับ บริษัท แอลเอ็มจีประกันภัยประกันภัย จำกัด โดยได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามพ.ร.บ.แก่ทายาทผู้เสียชีวิต รายละ 900,000 บาท รวม 4 ราย 3,600,000 บาท ทั้งนี้ ได้กำหนดจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทผู้เสียชีวิตซึ่งมีภูมิลำเนาในจังหวัดศรีษะเกษ ในวันที่ 8 มิถุนายน 2561 เวลา 13.30 น. ณ ที่ว่าการอำเภอ กันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเป็นประธานพิธี และเลขาธิการ คปภ. ได้มอบหมายให้ ผอ.สำนักงาน คปภ.ภาค 5 และผอ.คปภ.จังหวัดศรีษะเกษ เข้าร่วมพิธีมอบสินไหมทดแทนให้กับทายาทผู้เสียชีวิตด้วย สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทผู้เสียชีวิตอีก 3 รายที่เหลือ รวมจำนวน 2,700,000 บาท ซึ่งมีภูมิลำเนาจังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดนครพนม สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการประสานกับทายาทผู้เสียชีวิต เพื่อให้มารับค่าสินไหมทดแทนกับบริษัทประกันภัยต่อไป
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อการสูญเสียในครั้งนี้ และจะให้ความช่วยเหลือด้วยความเป็นธรรม โดยจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยและประสานงานด้านค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้อยากฝากเตือนถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท เตรียมสภาพร่างกายและตรวจสภาพรถให้พร้อม รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นประชาชนจึงควรให้ความสำคัญในเรื่องของการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแจ้งกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องประกันภัยได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
ที่มา : http://www.oic.or.th/th/consumer/news/releases/88528