คปภ. ผนึกกำลังเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ยกพลเปิดตัวโครงการ “คปภ. ลดความเสี่ยง สู่ชุมชน” • ปลุกพลังเครือข่ายผู้นำชุมชน และตำรวจท้องที่ เป็นกระบอกเสียงถ่ายทอดความรู้ประกันภัยครบวงจรให้แก่ประชาชน นำร่องโครงการฯ ที่ชุมชนวังทองหลาง กรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก

คปภ. ผนึกกำลังเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ยกพลเปิดตัวโครงการ “คปภ. ลดความเสี่ยง สู่ชุมชน” • ปลุกพลังเครือข่ายผู้นำชุมชน และตำรวจท้องที่ เป็นกระบอกเสียงถ่ายทอดความรู้ประกันภัยครบวงจรให้แก่ประชาชน นำร่องโครงการฯ ที่ชุมชนวังทองหลาง กรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงที่มาของการจัดทำโครงการ “คปภ. ลดความเสี่ยง สู่ชุมชน” ว่าทุกย่างก้าวของการดำรงชีวิตล้วนมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากภัยที่ไม่คาดคิด ความเสี่ยงภัยจากอุบัติเหตุในการเดินทาง ความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บ ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ ความเสี่ยงภัยจากการประกอบอาชีพ หรือแม้แต่ความเสี่ยงภัยทางการเงิน ซึ่งแน่นอน ภัยต่างๆ ทำให้เกิดความสูญเสียและเสียหาย ทั้งต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย รวมถึงทรัพย์สิน ดังนั้นสำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย รวมถึงคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัย ได้ดำเนินนโยบายและกำหนดกรอบทิศทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2559 – 2563) ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการประกันภัยให้กับประชาชนทุกระดับ สามารถใช้ระบบการประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง และเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินให้กับตนเองและครอบครัว ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระของภาครัฐในการดูแลประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงได้จัดทำ “โครงการ คปภ. ลดความเสี่ยง สู่ชุมชน” โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยผ่านการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง

โดยการนำร่องโครงการฯ ในครั้งนี้ได้บูรณาการความร่วมมือกับสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง สำนักงานเขตวังทองหลาง และวิทยาลัยพณิชยการอินทราชัย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเชิงรุก และเพื่อลดความเสี่ยงภายในชุมชนด้วยการใช้ระบบประกันภัยในการบริหารความเสี่ยง ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนได้ช่วยคิด พัฒนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดส่งต่อองค์ความรู้ด้านการประกันภัยให้เกิดขึ้นภายในชุมชนเพื่อร่วมเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเพื่อเสริมสร้างให้เศรษฐกิจชุมชนของประเทศเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งภายในงานยังจัดให้มีการเสวนาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งสำนักงาน คปภ. และสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง โดยมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 500 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ อปพร. ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และประชาชนในเขตวังทองหลาง

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ทั้งจากสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง สำนักงานเขตวังทองหลาง และวิทยาลัยพณิชยการอินทราชัยและหน่วยงานภาคเอกชน ทั้งจากบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และหน่วยงานภาคีเครือข่าย บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท เอไอเอ จำกัด บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) ที่ได้ร่วมกันมอบ หมวกกันน๊อค กรมธรรม์ประกันภัยสงกรานต์อุ่นใจ (ประกันภัย 10 บาท) และของที่ระลึกให้กับผู้เข้าร่วมงาน รวมทั้งยังได้มีการมอบกรมธรรม์ประกันภัยสงกรานต์อุ่นใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 30 สถานีตำรวจในเขตกรุงเทพฯ กว่า 5,500 นาย

“โครงการ คปภ. ลดความเสี่ยง สู่ชุมชนถือเป็นโครงการนำร่องในเชิงรุกที่ขับเคลื่อนสำนักงาน คปภ.ไปสู่ประชาชน แทนที่จะรอให้ประชาชนเข้ามาติดต่อที่สำนักงาน คปภ. เอง ทั้งนี้มีเป้าหมายหลักที่ต้องการให้ผู้นำชุมชน รวมถึงตำรวจในท้องที่สามารถเป็นกระบอกเสียงให้สำนักงาน คปภ. ในการถ่ายทอดความรู้ด้านการประกันภัยที่ครบวงจร ให้ประชาชนในชุมชนต่างๆ ของประเทศ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยและสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย ตลอดจนสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในชีวิต และทรัพย์สินให้กับตนเองและครอบครัวได้อย่างเหมาะสม พร้อมกันนี้ก็จะได้แนะนำภารกิจและบทบาทหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. รวมถึงช่องทางการเข้าถึงบริการของสำนักงาน คปภ. เพื่อให้ประชาชนทราบและเกิดความเชื่อมั่นต่อระบบประกันภัย นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสดีที่สำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัยจะร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมในการพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งยิ่งขึ้นและหากโครงการนำร่องนี้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนก็จะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไปในอนาคต” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

ที่มา : http://www.oic.or.th/th/consumer/news/releases/88366

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *