ปลุกเกษตรกรเร่งทำประกันข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผ่านโครงการ “Training for the Trainers” พร้อมจัดกิจกรรม CSR แบ่งปันความรัก ความห่วงใย สร้างฝายกั้นน้ำ ปลูกต้นไม้ มอบน้ำดื่ม หน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 หมวกเกษตรกร ตลอดจนเครื่องอุปโภคและบริโภคให้กับอุทยานแห่งชาติศรีน่าน รวมทั้ง จับมือหอการค้าจังหวัดน่าน ลงนาม MOU ร่วมเป็นเครือข่ายผลักดัน “เกษตรกร – ผู้ประกอบการค้า” นำระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงให้ธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า การจัดโครงการอบรมความรู้ประกันภัย “Training for the Trainers” สำหรับการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2562 ที่จังหวัดน่าน นับเป็นครั้งที่ 5 ของการจัดอบรมตามโครงการนี้ โดยพบว่าในปี 2561 จังหวัดน่าน มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปี จำนวน 2.54 แสนไร่ มีการทำประกันภัยข้าวนาปี จำนวน 1.17 แสนไร่ คิดเป็น 46.14% (อยู่อันดับที่ 43) ของประเทศ โดยมีเกษตรทำประกันภัยข้าวนาปี จำนวน 44,176 ราย นอกจากนี้จังหวัดน่านยังมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 7 แสนไร่ ติดอันดับ 2 ของประเทศ โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยจากศัตรูพืช ดังนั้น จึงต้องให้ความรู้ด้านประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พร้อมทั้งผลักดันให้นำระบบประกันภัยเข้ามาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่รัฐบาลให้งบประมาณสนับสนุนเบี้ยประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 121.80 ล้านบาท โดยสำนักงาน คปภ. คาดหวังว่าจังหวัดน่าน จะมีการทำประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เต็มจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องจำนวน 7 แสนไร่
สำหรับรูปแบบการอบรมความรู้ด้านประกันภัยที่จังหวัดน่าน มีความพิเศษกว่าการลงพื้นที่ในครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา กล่าวคือ มีการจัดกิจกรรม CSR เพื่อสังคมด้วย โดยในวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ตนและคณะวิทยากร เจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ. ตลอดจนภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรในอำเภอเวียงสา จำนวน 250 ราย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เพื่อรับฟังสภาพปัญหา อุปสรรค ข้อคิดเห็น ตลอดจนข้อเสนอแนะของการทำประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยเกษตรกรได้สะท้อนสภาพปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เช่น กรณีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ไม่สามารถทำประกันภัยได้ กรณีมีเกษตรกรบางรายที่ไม่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร เนื่องจากไม่มีสำเนาเอกสารสิทธิ์ เช่น กรณีผู้ให้เช่าไม่ย่อมให้เอกสารสิทธิ์แก่ผู้เช่า เพื่อนำไปประกอบการขึ้นทะเบียนเกษตรกร กรณีมีความเสียหายเกิดขึ้นจริง แต่ไม่มีการประกาศภัยพิบัติ เป็นต้น ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้รับการชี้แจงโดยคณะวิทยากรจากสำนักงาน คปภ. เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. และผู้แทนจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย จนเป็นที่เข้าใจของเกษตรกร รวมทั้ง ได้มีการรวบรวมข้อมูลจากการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรในครั้งนี้นำไปปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการรับประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ดียิ่งขึ้น ต่อจากนั้นในช่วงบ่าย เลขาธิการ คปภ. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ. ได้ร่วมกับผู้บริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทยและภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ลงพื้นที่ทำกิจกรรม CSR สร้างฝายกั้นน้ำ ปลูกต้นไม้ ณ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน รวมทั้งมอบน้ำดื่ม หน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 หมวกเกษตรกร ตลอดจนเครื่องอุปโภคและบริโภค เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่อุทยานในการปฏิบัติหน้าที่อันเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ โดยมีนายบัณฑิต ฉิมชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นผู้รับมอบ
ถัดมาในวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการอบรมความรู้ประกันภัย (Training for the Trainers) สำหรับการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประจำปี 2562 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมน่านกรีนเลควิว รีสอร์ท จังหวัดน่าน โดยมีนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ให้เกียรติกล่าวต้อนรับและกล่าวขอบคุณสำนักงาน คปภ. ที่เลือกจังหวัดน่านเป็น 1 ใน 10 จังหวัด เพื่อจัดอบรมความรู้ด้านประกันภัยในปีนี้ อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเกษตรกรในจังหวัดน่าน เพื่อนำระบบประกันภัยใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป และหลังจากพิธีเปิดโครงการอบรมฯ ดังกล่าว สำนักงาน คปภ. โดย ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยเรื่องการบูรณาการส่งเสริมความรู้และสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย กับ หอการค้าจังหวัดน่าน โดยมีนายศรีรุ้ง รัตนศิลา ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดน่าน ร่วมลงนาม ซึ่งกรอบความร่วมมือดังกล่าว มุ่งเน้นการส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการ พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมในจังหวัดน่านได้รับความรู้ด้านการประกันภัย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงและเป็นหลักประกันความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเป็นเครือข่ายในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านประกันภัยไปสู่เกษตรกรและภาคส่วนต่างๆในพื้นที่จังหวัดน่านอย่างครบวงจร
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่เพื่อรับฟังสภาพปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของเกษตรกรจังหวัดน่านในครั้งนี้ถือเป็นการปลุกให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตื่นตัวที่จะนำระบบประกันภัยเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ รวมทั้งการจัดเวทีให้ความรู้ด้านประกันภัย ซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อ Trainers เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ หลักการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยงด้วยการประกันภัย , กรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2562 , การประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 , การขึ้น/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรและการยื่นแบบขอรับความช่วยเหลือตามแบบ กษ 01 , การรับประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2562 และการเสวนาแนวทางการปฏิบัติ ปัญหา และอุปสรรคของโครงการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2562 โดยคณะวิทยากรจาก 5 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงาน คปภ. สมาคมประกันวินาศภัยไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและกรมส่งเสริมการเกษตร ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อได้รับสิทธิ์ทำประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประจำปี 2562 ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2562 (ยกเว้นภาคใต้ถึง 15 ธันวาคม 2562) และหากต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับการประกันภัยข้าวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ที่แอพพลิเคชั่น “กูรูประกันข้าว” หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186
ที่มา : https://www.oic.or.th/th/consumer/news/releases/89440