คปภ. ติดตามและสั่งการให้บริษัทประกันภัยเร่งจ่ายค่าสินไหมทดแทน กรณีสัตวแพทย์เสียชีวิตพร้อมบุตรสาวจากเหตุไฟไหม้บ้านพัก

คปภ. ติดตามและสั่งการให้บริษัทประกันภัยเร่งจ่ายค่าสินไหมทดแทน กรณีสัตวแพทย์เสียชีวิตพร้อมบุตรสาวจากเหตุไฟไหม้บ้านพัก

คปภ. ติดตามและสั่งการให้บริษัทประกันภัยเร่งจ่ายค่าสินไหมทดแทน กรณีสัตวแพทย์เสียชีวิตพร้อมบุตรสาวจากเหตุไฟไหม้บ้านพัก
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 เวลา 05.00 น. เกิดกรณีเพลิงไหม้บ้านพักเลขที่ 58/120 หมู่บ้านซื่อตรง ติดกับโรงพยาบาลสัตว์ซื่อตรง ถนนสุวินทวงศ์ 26 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ นายสัตวแพทย์ ชาติชัย โภคานิตย์ เจ้าของโรงพยาบาล พร้อมบุตรสาว 2 คน เสียชีวิต ส่วนสัตวแพทย์หญิง กันยวีร์ สุจิพงศ์ซึ่งเป็นภรรยาได้รับบาดเจ็บ นั้น
สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือด้านการประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้สั่งการให้มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยผลจากการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า นายสัตวแพทย์ ชาติชัยฯ ได้รับความคุ้มครองจากการประกันภัย ดังนี้
1. บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้ความคุ้มครองสำหรับการประกันชีวิต วงเงินความคุ้มครอง 345,890 บาท และจากการประกันภัยอุบัติเหตุ วงเงินความคุ้มครอง 1,037,680 บาท รวมค่าสินไหมทดแทน 1,383,570 บาท
2. บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ให้ความคุ้มครองสำหรับการประกันชีวิต วงเงินความคุ้มครอง 150,000 บาท จากประกันอุบัติเหตุ เอไอ วงเงินความคุ้มครอง 150,000 บาท และ 100,000 บาท และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล วงเงินความคุ้มครอง 400,000 บาท ซึ่งขณะนี้ บริษัทฯ ได้ทำเช็คจ่ายค่าสินไหมทดแทน วงเงิน 800,000 บาท เรียบร้อยแล้ว
3. บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  ให้ความคุ้มครองสำหรับการประกันชีวิตกลุ่มคุ้มครองสินเชื่อ วงเงินความคุ้มครอง  831,000 บาท
โดยจากการติดตามในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ทุกบริษัทพร้อมจ่ายค่าสินไหมทดแทน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อกับสัตวแพทย์หญิง กันยวีร์ฯ ผู้รับประโยชน์ ซึ่งยังคงพักรักษาตัวและอยู่ในภาวะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับบุตรสาวทั้ง 2 คน ที่เสียชีวิต สำนักงาน คปภ. ได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเพื่อตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการทำประกันภัยไว้ จะเร่งดำเนินการให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยเร็วต่อไป
“จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลาถึงแม้ว่าจะมีความระมัดระวังในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม ดังนั้น จึงขอเตือนให้ประชาชนทำประกันภัยไว้ ไม่ว่าจะเป็นการประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัยเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองกับชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งปัจจุบันการประกันภัยมีให้เลือกหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ประชาชนทำประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยไว้ด้วย เพื่อให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้างหรือตัวอาคารใช้เป็นที่อยู่อาศัย ทรัพย์สินภายในบ้าน สิ่งที่ติดกับตัวอาคาร หรือเครื่องมือเครื่องใช้ภายในบ้าน โดยให้ความคุ้มครอง ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด ภัยจากยวดยานพาหนะ ภัยจากอากาศยาน ภัยจากน้ำที่เกิดจากการรั่วซึมภายในอาคาร (ไม่รวมน้ำท่วม) รวมถึงภัยธรรมชาติ 4 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วม ภัยลมพายุ ภัยลูกเห็บ และภัยแผ่นดินไหว ซึ่งประชาชนสามารถเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยประเภทต่างๆ ได้โดยพิจารณาจากความเหมาะสมกับความต้องการ และความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยด้านการประกันภัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
ที่มา : http://www.oic.or.th/th/consumer/news/releases/88853

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *